Review : Sony Ericsson Xperia™ ray & arc สมาร์ทโฟนสวยล้ำเกินห้ามใจ พร้อมฟังก์ชั่นถ่ายภาพ 3D Sweep Panorama

ถ้าคุณกำลังมองหา Smart phone ที่สมบูรณ์แบบทั้งในของดีไซน์ที่สวยงาม มีสเปคที่ดีเพียงพอกับการใช้งานปัจจุบัน แบตเตอรี่ชาร์จแล้วใช้งานได้เกิน 24 ชั่วโมง ถ่ายรูปได้ดีเยี่ยมแทนการพกกล้อง อัพเดต Social network ได้ทั้งวัน พกง่ายบางเบา ก็ต้อง Xperia ray กับ arc นี่แหละครับที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน แต่เลือกตัวไหนดีล่ะ?

เนื่องจาก Xperia™ ray และ arc นั้นมีสเปคที่คล้ายกัน จึงขอรีวิวไปพร้อมๆกัน แต่เนื่องจากว่าหลายคนอาจจะรู้จัก arc มาก่อนแล้ว เพราะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ส่วน ray นั้น เริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2554  จึงขอรีวิว ray เป็นหลัก นำมาเปรียบเทียบกับ arc เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง ว่า ray กับ arc ตัวไหนเหมาะกับผู้ใช้กลุ่มใด

ดูสเปคและรายละเอียดเต็มๆของทั้งสองรุ่นกันก่อนครับ ได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Sony Ericsson http://www.sonyericsson.com/cws/products/mobilephones?cc=th&lc=th

ทั้ง ray และ arc ต่างก็มีดีไซน์สวยงามทั้งคู่ สวยคนละแบบ บางเฉียบ น้ำหนักเบา ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นครั้งแรก ก็ต้องหลงไหลไปกับดีไซน์ของมัน หน้าจอสีดำสนิทกลืนไปกับขอบ ไร้เงาสะท้อนรบกวนสายตา ไม่มีเงาสะท้อนระหว่างแผงจอภาพกับผิวตัวเครื่องด้านนอก ที่มักจะพบเห็นทั่วไปในสมาร์ทโฟนบางยี่ห้อ เมื่อจอดับจะเห็นเป็นสีเทาอ่อน และมีแสงสะท้อนรบกวนมากเมื่อใช้งานกลางแจ้ง

Xperia™ ray ในต่างประเทศมีจำหน่าย 4 สี คือ แดง-ชมพู ทอง ขาว และดำ แต่ในประเทศไทยไม่มีสีขาว ต้องลุ้นกันว่าจะมีสีขาวมาเพิ่มเติมภายหลังหรือไม่ (เครดิตภาพจากเว็บไซต์ SE-society และเว็บไซต์ต่างประเทศ)

มาเริ่มแกะกล่อง Xperia™ ray กันก่อน เครื่องที่ได้รับมาเป็นสีดำ ภายในกล่องจะมีคู่มือ, Adapter ขาแบน, สาย micro USB, หูฟังธรรมดาที่ไม่ใช่แบบ in-ear และฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอ โดยไม่มีซองหนังแถมมาในกล่อง ราคาล่าสุดอยู่ที่ 8,490 บาท

สาย micro USB เป็นแบบมีตัวลดสัญญาณรบกวนที่ปลายสายทั้งสองข้างตามมาตรฐาน Sony Ericsson  หูฟังเป็นแบบแจ็ค 3.5 มม. ที่ไม่ได้เคลือบทอง ขั้วต่อหูฟังอยู่ด้านบนตัวเครื่องของ ray ถัดไปทางขวาของปุ่ม Power

เมื่อนำหูฟังของ Xperia arc มาเปรียบเทียบ จะเห็นว่าแจ็คหูฟังของ arc เป็นแบบเคลือบทอง หักมุม 90 องศา เพราะเสียบเข้ากับด้านข้างของตัวเครื่อง หูฟังเป็นแบบ in-ear ให้พลังเสียงเบสที่มากกว่า คุณภาพของหูฟังที่แถมมากับ arc นั้นดีกว่า และ arc ไม่จำเป็นต้องซื้อหูฟังใหม่มาใช้แทนหูฟังที่แถมในกล่อง

Xperia ray มาพร้อมกับ Android 2.3.4 ใช้เวลาเปิดเครื่อง บูตไม่นานก็พร้อมใช้งานทันที สังเกตว่ารอบปุ่ม Home รูปครึ่งวงกลม จะมีไฟจาก LED สีขาวสว่าง สวยงาม

ในขณะชาร์จแบตเตอรี่ LED จะแสดงสถานะเป็นไฟสีส้ม เมื่อชาร์จเต็มจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว นอกจากนี้ในการใช้งานเป็นไฟแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็จะเป็นสีอื่น เช่น มีข้อความเข้าจาก WhatsApp อาจจะเป็นไฟสีเขียวน้ำทะเล เหลือง น้ำเงิน ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของแอพพลิเคชั่นนั้นๆ (อย่างเช่น WhatsApp เลือกได้ 6 สี)

ray มีขนาดเล็กเพียง 111.0 × 53.0 × 9.4 มม. น้ำหนักเบาเพียง 100 กรัม

ขนาดเล็กแต่ดูเป็นทรงยาว ทำให้จับได้ถนัดมือมากๆ ไม่ลื่นมือ ถ้าเคยใช้ iPhone มาก่อน แล้วรู้สึกว่าตัวเครื่องมันกว้างเกินไป หยิบโทรคุยไม่ถนัด อยากให้ลอง Xperia ray ครับ ขนาดและสัดส่วนทุกมิติของมัน เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดแล้ว เหมาะสมกับสรีระของคนเราอย่างแท้จริง

สามารถเปลี่ยน Theme ได้ 7 สี ลองใช้สีเขียวให้เข้ากับไฟสีเขียว ดูสวยลงตัวทีเดียว

หน้าจอขนาด 3.3 นิ้ว 16.7 ล้านสี อัตราส่วน 16:9 แต่คมชัดเนียนตาด้วยความละเอียดถึง 854 x 480 พิกเซล ทำให้รูปภาพและตัวอักษรที่ปรากฎบนหน้าจอของ ray มีความคม เนียน ไร้รอยหยัก นับเป็นจุดเด่นที่สำคัญของ ray เลยทีเดียว นอกจากนี้จอภาพยังแสดงผลสีดำได้ดี ดำลึกมากเมื่อเปรียบเทียบกับจอภาพชนิดเดียวกัน ให้สีสันได้ถูกต้อง สีขาวก็ขาวจริง ไม่อมเหลือง อมฟ้า

ด้านข้างของตัวเครื่องที่ไม่ใช่ฝาหลัง ทำด้วยอลูมิเนียม แข็งแรง เป็นชิ้นเดียวทั้งเฟรมกับตัวเครื่องภายใน เป็นผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกดี ไม่ลื่นมากนัก

ปุ่ม Home มีขนาดเหมาะสม กดค่อนข้างง่าย แต่ไม่นิ่มเท่าไร ปุ่ม Back และ Menu เป็นระบบสัมผัส ตอบสนองได้ไวดี เส้นโค้งครึ่งวงกลมรอบปุ่ม Home เป็นสีเดียวกับเฟรมอลูมิเนียมด้านข้างตัวเครื่อง เช่น เครื่องสีทอง ก็จะเป็นเส้นโค้งครึ่งวงกลมสีทองแวววาว

ผิวด้านหน้าตัวเครื่อง สีดำเรียบหรูเป็นชิ้นเดียว ป้องกันเงาสะท้อนที่เป็นปัญหาในการใช้งานกลางแจ้งของสมาร์ทโฟนยี่ห้อ HTC ทุกรุ่น

ด้านซ้ายบน เป็นช่องเสียบสาย micro USB  ด้านบนมีกล้องด้านหน้า (แต่ Xperia arc ไม่มี) และช่องลำโพงสนทนาที่เสียงดังฟังชัดดี

ผิวด้านหน้าเรียบ มีข้อดีอีกอย่างคือ เช็ดคราบมันหลังโทรคุยได้ง่าย

ด้านบนมีสวิตช์เปิด/ปิด ที่นุ่ม กดง่าย ออกแรงกดน้อย (ดีกว่า Xperia arc) และช่องเสียบแจ็คหูฟังอยู่ด้านบน ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมกว่าอยู่ด้านข้าง

ด้านข้างฝั่งขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง แต่ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ (Xperia arc มีปุ่มชัตเตอร์)

ฝาหลังของเครื่องสีดำ เป็นพลาสติกผิวด้านเคลือบกันลื่น แกะง่าย ใส่สายห้อยโทรศัพท์ได้ ตำแหน่งของช่องลำโพงนอก อยู่ใกล้กับโลโก้ Sony Ericsson สีเขียว กล้อง 8.1 ล้านพิกเซล ใช้ Sony Exmor R for mobile CMOS เป็นเซ็นเซอร์รับแสง ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี มีค่ารูรับแสง f/2.4 พร้อมไฟ LED ส่องสว่างขณะถ่ายภาพ/วิดีโอ (ไม่ใช่แฟลช) และรูเล็กๆของไมโครโฟนตัวที่ 2 ใช้ในการตัดเสียงรบกวนภายนอก

แกะฝาหลัง พิสูจน์ความบางเฉียบ พบกับแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh ช่องเสียบ SIM และ microSD

ปิดฝาหลังได้ง่ายกว่า Xperia arc  แน่นหนาดี บีบแล้วไม่มีเสียงกรอบแกรบเลย วัสดุและงานประกอบดีจริงๆ ไม่มีส่วนที่คาดว่าจะลอกได้ง่ายเลย ไม่มีชิ้นส่วนชุบโครเมี่ยม

คราวนี้มาดู Xperia arc กันบ้าง มีให้เลือก 2 สี คือ น้ำเงินดำ และเงิน แต่เครื่องที่นำมาเปรียบเทียบ เป็นสีเงิน ราคา 13,990 บาท สูงกว่า ray อยู่ 6,500 บาท โดยในกล่องจะมีคู่มือ, ซองหนัง, หูฟังแบบ in-ear เคลือบทองพร้อมจุกยางรวม 3 ขนาด, สาย micro HDMI, สาย micro USB และ Adapter สำหรับประเทศไทยจะเป็นขาแบน แถมฟิล์มกันรอยหน้าจอให้อีก 1 ชุด

ดีไซน์บาง ด้านหลังโค้งเว้า มีช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านข้าง

ปุ่ม Back – Home – Menu เรียงยาวต่อกัน กดง่าย นุ่ม ใช้แรงกดน้อย ดีกว่าปุ่มระบบสัมผัสที่มักจะพลาดไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ

หน้าจอความละเอียด 854 x 480 pixels ขนาด 4.2″ 16.7 ล้านสี  ดูสเปคทั้งหมดจากเว็บไซต์ http://www.sonyericsson.com/cws/products/mobilephones/overview/xperiaarc?cc=th&lc=th#view=features_specifications

มีขอบโครเมี่ยมรอบเครื่องทั้ง 4 ด้าน ด้านล่างมีช่องใส่สายห้อยโทรศัพท์ด้วย

ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และช่องต่อ micro HDMI ไปยังโทรทัศน์ อยู่ด้านบน ด้านข้างตัวเครื่องจะมีช่องต่อ micro USB, ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มชัตเตอร์ซึ่งไม่มีใน Xperia ray

รุ่นสูงสุดจึงใส่ฟังก์ชั่นมาครบครัน รวมทั้งล่าสุดสามารถถ่ายภาพ 3D Panorama ได้ด้วย

ด้านหลังโค้งเว้าสวยงาม มีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน กล้อง 8 ล้านพิกเซล และ LED Flash

ด้านหน้าของตัวเครื่องมี Sensor ตรวจสอบการดับหน้าจอเมื่อนำโทรศัพท์ยกแนบหู ไม่มีกล้องหน้า

คราวนี้ก็มาถึงการเปรียบเทียบทั้ง 2 รุ่น จะเห็นความบางนั้น บางมากใกล้เคียงกัน หากเป็นคนที่นิยมสวมใส่กางเกงยีนส์รัดรูปแนบต้นขาแล้ว ทั้งสองรุ่นนี้ ก็ไม่ทำให้นูนจนน่าเกลียดเมื่อใส่ในกระเป๋ากางเกง เพราะความบางทำให้การสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง และการล้วงออกมา ทำได้ไม่ยาก แต่ ray จะมีขนาดเล็กกว่า ล้วงออกมากระเป๋าได้ง่ายกว่า จับถนัดกว่า ไม่ลื่น จุดนี้ ray ทำได้ดีกว่า arc เล็กน้อย

ทั้งสองรุ่นมีความละเอียดหน้าจอเท่ากัน ซึ่งสูงกว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆในตลาดเกือบทุกรุ่น แต่ด้วยขนาดหน้าจอของ ray นั้นเล็กกว่า จึงต้องบีบเม็ดหรือจุดพิกเซลบนจอภาพให้เล็กลง เพื่อให้คงความละเอียดได้เท่ากับ arc ผลที่ได้คือ ภาพจะคมชัดเนียนตาไร้รอยหยัก ภาพจะดูสวยกว่า arc อย่างเห็นได้ชัด ตัวอักษรและภาพคมกริบ แต่ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาทางสายตา เพราะตัวอักษรจะเล็กลง นอกจากนี้สีสันของจอภาพ ray มีความถูกต้องสมจริงมากกว่า arc ที่แสดงสีขาวได้เป็นสีอมเหลืองส้มอ่อนๆ สรุปแล้วในเรื่องของจอภาพนั้น ray ดีกว่า arc มากครับ

ด้านหลังของ ray และ arc สวยคนละแบบ สูสีกัน  ฝาหลังของ arc ค่อนข้างลื่น มีโอกาสที่จะหลุดมือได้มากกว่า ray ขอบโครเมี่ยมของ arc นั้นทำความสะอาดง่าย แต่ถ้าขูดกับของมีคมบ่อยๆ อาจจะลอกได้ ส่วน ray ไม่มีขอบโครเมี่ยม แต่เป็นขอบที่ทำด้วยอลูมิเนียม ทนทานกว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า ตำแหน่งปุ่มและช่องต่อต่างๆ ray ทำได้เหมาะสมกว่า

ในส่วนของ software ใน ray และ arc แทบจะเหมือนกัน มีจุดต่างกันไม่มากนักหลังอัพเดตเป็น Android เวอร์ชั่น 2.3.4 ทั้งคู่ ผู้ซื้อจึงต้องตัดสินใจจากดีไซน์เป็นหลัก

User interface หน้าตาของเมนู ไอคอน ต่างๆ สวยงามตามสไตล์ Xperia อยู่แล้ว  Launcher ใช้งานได้ดี ไม่ต้องติดตั้ง Launcher ตัวอื่นมาใช้แทน แต่มีข้อจำกัดคือ Home screen มีเพียง 5 หน้า

Widget ที่ Sony Ericsson ออกแบบมา ก็สวยงามและมีประโยชน์ดีมาก บอกพลังงานในแบตเตอรี่เป็นเปอร์เซ็นต์ได้ละเอียดถูกต้อง และที่น่าสนใจคือ โหมดประหยัดแบตเตอรี่ สามารถยืดอายุการใช้งานได้นานถึง 3-5 วัน ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยระยะเวลาการใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน จากการทดสอบ แบตเตอรี่ลดลงเฉลี่ยเพียงวันละ 15% (24 ชั่วโมง) เมื่อโทรคุยบ้างตามปกติ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ใช้งาน Social network บ้างเท่าที่จำเป็นจริงๆ

มีโฟลเดอร์ที่ใส่ได้ 4 ไอคอน คล้ายกับใน iOS

นอกนั้นในส่วนของ Software ทั่วไป ก็จะคล้ายกับ Android smart phone 2.3.4 ทั่วไป

ในส่วนของกล้อง เรียกได้ว่า ความสามารถ ลูกเล่นต่างๆ ระดับน้องๆกล้อง Sony Cyber-shot เลยทีเดียว ปรับแต่งค่าได้มากมาย เช่นเดียวกับ https://digitalnext.wordpress.com/2011/10/28/
review-sony-ericsson-live-with-walkman  ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ เพียงแต่ว่า arc นั้นไม่มีกล้องหน้า แต่ ray มี และสามารถใช้ถ่ายภาพตัวเองได้ด้วย

คุณภาพของภาพถ่ายนั้น* ดีกว่า iPhone 4 และสูสีกับ iPhone 4s ครับ ผมกล้าบอกเลยว่า Xperia arc และรุ่นอื่นๆที่ใช้ Sony Exmor R CMOS sensor รับภาพ เป็น Android ที่ถ่ายภาพออกมาได้ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ (ซึ่งมีทั้ง arc, arc S, neo, acro, ray และ pro) แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องตั้งค่าให้เหมาะสมและกำหนดจุดโฟกัสให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน  สำหรับ iPhone 4s ก็ใช้ sensor รับภาพที่ผลิตโดยโซนี่ จึงให้คุณภาพของภาพถ่ายได้ดีเยี่ยมใกล้เคียงกับ Xperia รุ่นระดับบน

ข้อสังเกต : Xperia ray ไม่มีปุ่มชัตเตอร์สำหรับกดหาโฟกัส ถ่ายภาพโดยใช้วิธีการสัมผัสหน้าจอเพียงครั้งเดียว เพื่อหาโฟกัสและชัตเตอร์อัตโนมัติทันที (สัมผัสที่จอค้างไว้ที่โฟกัสแล้วปล่อยเมื่อต้องการถ่ายภาพแทนการกดชัตเตอร์)

จุดเด่นของ Xperia arc : หูฟังคุณภาพดี, กล้องคุณภาพดีมาก, จอภาพขนาดใหญ่, มีปุ่มชัตเตอร์ที่ด้านข้างตัวเครื่อง และมีซองหนังแถมมาในกล่อง

จุดเด่นของ Xperia ray : จับได้ถนัดมือมากกว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในตลาด, ดีไซน์สวยและพกพาสะดวก, เปลี่ยนฝาหลังของแท้ได้ 4 สี (จำหน่ายแยก), จอภาพคมชัดมากที่สุดในบรรดา Android สมาร์ทโฟนทุกรุ่นในตลาด และมีไฟรอบปุ่มโฮม 7 สีที่ด้านหน้าตัวเครื่องอย่างสวยงาม

*ตัวอย่างภาพถ่าย จะแยกเป็นบทความตอนถัดไป

—————————————————————————————-
เรียบเรียงบทความและถ่ายภาพโดย วรพล ลิ่มศิริวงศ์ (Worapol Limsiriwong)

ติดต่อทำข่าว PR งานแถลงข่าวเปิดตัว / รีวิวผลิตภัณฑ์
โทร. 08-7909-7000  ●  Google+ : worapol@gmail.com
facebook.com/worapol  ●  twitter.com/digitalnext
ท่านสามารถนำบทความนี้ไปเผยแพร่ได้ในสื่อทุกประเภท
แต่ต้องทำลิงค์อ้างอิงมายังบทความหน้านี้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ