Review : ทดสอบขับ Porsche Cayenne S E-Hybrid ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมไม่รู้ลืม

นี่คือรถยนต์ SUV ระดับหรูหราที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ใช้เชื้อเพลิงน้อย ให้สมรรถนะดีเยี่ยม ขับขี่สนุกอย่างน่าประทับใจ

Cayenne S E-Hybrid

ทำความรู้จักกับ Porsche Cayenne S E-Hybrid โดย AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “Porsche Cayenne S E-Hybrid Driving Experience 2015” เชิญท่านสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะอย่างไร้ขีดจำกัดของ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ระดับหรูมาพร้อมกับเครื่องยนต์สันดาปซึ่งทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-อิออน (lithium-ion battery) เทคโนโลยีแบบ Plug-in ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น รถยนต์ที่คุ้มค่าเงินที่สุดในขณะนี้ มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาทเท่านั้น โดยกิจกรรม ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558

Cayenne S E-Hybrid (71)

“Porsche Cayenne S E-Hybrid Driving Experience 2015” คือกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ใหม่ล่าสุด ที่ทาง เอเอเอสฯ จัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ท่านสื่อมวลชนได้ทดลองขับรวมถึงพิสูจน์สมรรถนะของรถ พร้อมสัมผัสรูปลักษณ์ที่โดดเด่น โดยมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ มาคอยให้คำแนะนำท่านสื่อมวลชนเกี่ยวกับวิธีการขับรถยนต์ปอร์เช่อย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงเทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะของนวัตกรรมปอร์เช่ที่ผสมผสานการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ากับความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งการใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่ง คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถยนต์และกลุ่มตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ ในเรื่องของความโด่ดเด่น ล้ำสมัย คล่องตัวในทุกๆ รูปแบบของการขับขี่

Cayenne S E-Hybrid (68)

Cayenne S E-Hybrid (69)

Cayenne S E-Hybrid (67)

ซึ่งภายในงาน เอเอเอสฯ ได้เตรียมสถานีทดสอบถึง 4 สถานีประกอบด้วย สถานี Accelerate พิสูจน์สมรรนะการทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ต่อด้วยสถานี Coasting Function สัมผัสฟังก์ชั่นที่ช่วยในการประหยัดน้ำมันและพลังงาน , สถานี Braking ทดสอบประสิทธิภาพการเบรกของรถยนต์ปอร์เช่ พร้อมวิธีการเบรกที่ถูกต้อง และ สถานี Handling สมรรถนะของการทรงตัวและการควบคุมรถยนต์ปอร์เช่เพื่อการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Cayenne S E-Hybrid (62)

Cayenne S E-Hybrid (63)

Cayenne S E-Hybrid (64)

Cayenne S E-Hybrid (65)

Cayenne S E-Hybrid (66)

Cayenne S E-Hybrid (60)

Cayenne S E-Hybrid (61)

Cayenne S E-Hybrid (56)

Cayenne S E-Hybrid (57)

Cayenne S E-Hybrid (58)

Cayenne S E-Hybrid (38)

Cayenne S E-Hybrid (39)

Cayenne S E-Hybrid (40)

Cayenne S E-Hybrid (41)

Cayenne S E-Hybrid (42)

Cayenne S E-Hybrid (43)

Cayenne S E-Hybrid (44)

Cayenne S E-Hybrid (45)

Cayenne S E-Hybrid (46)

Cayenne S E-Hybrid (47)

Cayenne S E-Hybrid (49)

Cayenne S E-Hybrid (50)

Cayenne S E-Hybrid (51)

Cayenne S E-Hybrid (52)

Cayenne S E-Hybrid (53)

Cayenne S E-Hybrid (54)

Cayenne S E-Hybrid (55)

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ยนตรกรรมใหม่ล่าสุดจากปอร์เช่ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่นและล้ำสมัยเมื่อเทียบกับ คาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid) รุ่นก่อน โดยสานต่อความสำเร็จของนวัตกรรม อี-ไฮบริด โดยเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ระดับพรีเมี่ยมคันแรกของโลกด้วยเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ซึ่งรุ่นใหม่นี้เครื่องยนต์มาในรูปแบบ Parallel full hybrid พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบ Plug-in, Supercharged ขนาดเครื่องยนต์ 3 ลิตร V6 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตพละกำลังเครื่องยนต์โดยรวมสูงสุดที่ 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์); ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic S; ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive; อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 5.9 วินาทีเท่านั้น; ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง; ความเร็วสูงสุดหากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง; อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 3.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (29.4 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 79 กรัม/กิโลเมตร; ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 18-36 กิโลเมตร; แบตเตอรี่แบบ ลิเธี่ยม-อิออน (lithium-ion) 10.8 kWh

Cayenne S E-Hybrid (70)

ระบบการขับเคลื่อน : เทคโนโลยีแบบ Parallel full hybrid with plug-in technology, เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและ decoupling clutch พละกำลังเครื่องยนต์ 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 590 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,250-4,000 รอบต่อนาที

ดีไซน์ : คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) โด่ดเด่น สะดุดตาด้วย เบรกคาลิปเปอร์คำว่า “Porsche” และเข็มหน้าปัดรถต่างๆ ที่มาพร้อมด้วยสีเขียว Acid ภายนอกได้รับการออกแบบที่ยังคงเส้นสายอันแข็งแกร่งเป็นเอกลักษณ์ของคาเยนน์ไว้ แต่ที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ไฟหน้า Bi-Xenon แบบ     Floating four-point LED daytime running lights ไฟท้ายแบบ 4 ชิ้นส่วน Four Part design ด้านข้างจะพบกับไฟเลี้ยวติดกระจกมองข้าง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย LED สีเข้มดุดัน ส่วนภายในยังจัดเต็มความหรูหราและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เปลี่ยนลุคเพิ่มความสปอร์ตเข้ามาตั้งแต่เบาะหนังและคอนโซลหุ้มหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) พร้อม Paddle Shift ดีไซน์เดียวกันกับรุ่น ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) มาตรวัดแบบวงกลม 5 วง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่

คุ้มค่ามากที่สุด : คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง เพียง 3.4 ลิตร/100กิโลเมตร หรือ 29.4 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมสนนราคาที่ 7.99 ล้านบาทเท่านั้น

ปลอดภัย : เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังติดตั้งร่วมกันเพื่อสร้างระบบขับเคลื่อนเดียว มาพร้อมกับระบบ Porsche Traction Management (PTM) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมา , ระบบ limited-slip centre
differential และ ระบบเบรกแบบ Dual-circuit brake system ที่มีวงจรทำงานแยกระหว่างเพลาหน้า ซึ่งมีคาลิปเปอร์เบรก 6 สูบอลูมิเนียมโมโนบล๊อค, ดิสก์เบรกแบบเป็นรูเพื่อระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 390 มิลลิเมตรและมีความหนาที่ 38 มิลลิเมตร และเพลาหลัง ซึ่งมีคาลิปเปอร์เบรก 4 สูบอลูมิเนียมโมโนบล๊อค, ดิสก์เบรกแบบเป็นรูเพื่อระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 330 มิลลิเมตรและมีความหนาที่ 28 มิลลิเมตร

สัมผัสภายในห้องโดยสารที่หรูหรา ล้ำสมัย นั่งสบาย จนไม่อยากลงจากรถ

Cayenne S E-Hybrid (36)

Cayenne S E-Hybrid (33)

Cayenne S E-Hybrid (34)

Cayenne S E-Hybrid (35)

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

 

สรุปการทดสอบขับในสนาม โดย DigitalNext Blogger

C360_2015-02-06-16-16-10-055

  • เริ่มต้นด้วยการบิดกุญแจ สตาร์ต เสียงเครื่องยนต์เบามาก แต่รู้สึกได้ถึงพลังที่พร้อมจะพุ่งทะยานออกไป
  • ทัศนวิสัย มุมมองในการขับขี่ ยอดเยี่ยม กว้างขวาง ขับง่าย กะระยะได้ง่าย มองเห็นรอบทิศได้ชัดเจน จอดสะดวก
  • ในการทดสอบขับทางตรงแบบยาว ๆ เหยียบคันเร่งสุด เพื่อทดสอบดูว่า 4 ร้อยกว่าแรงม้า มันจะแรงขนาดไหน ซึ่งเป็นการรวมพลังขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า  รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หลังติดเบาะ คันเร่งตอบสนองเร็วทันใจอย่างมาก เร่งแซงสนุกสะใจขาซิ่งอย่างแน่นอน
  • เมื่อเหยียบคันเร่งจนสุด วิ่งมาด้วยความเร็วสูง จนถึงจุดที่จะต้องทดสอบเบรค ก็จะต้องเหยียบเบรคให้สุดเช่นกัน โดยไม่มีการชะลอความเร็วมาก่อน  พบว่าระบบเบรคของ Cayenne S E-Hybrid นุ่มนวลเหลือเชื่อแม้ว่าสั่งให้รถหยุดในขณะวิ่งด้วยความเร็วที่สูง ทรงตัวดีเยี่ยม ไม่มีอาการหน้าทิ่ม เข็มขัดนิรภัยเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ให้ลำตัวผู้โดยสารและผู้ขับเอนมาข้างหน้าเลย  ใครที่มีปัญหาเมารถง่าย ขอท้าพิสูจน์เลยว่าระบบเบรคของรถยนต์รุ่นนี้นุ่มนวลมาก ระยะเบรคสั้น รู้สึกมั่นใจจริง ๆ
  • น้ำหนักพวงมาลัย ดีเยี่ยมไร้ที่ติ ไม่ว่าจะขับในช่วงความเร็วเท่าไร ไม่ว่าทางตรงหรือทางโค้ง น้ำหนักของพวงมาลัยของคงที่ ตอบสนองได้ว่องไว ไม่หนักหรือเบาเกินไป ขับได้ง่ายทุกเพศทุกวัย
  • การทรงตัวขณะเข้าโค้ง ดีเยี่ยม รถนิ่งมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นการทดสอบขับแบบผาดโผน เพื่อต้องการจับผิด พยายามหาข้อบกพร่องให้ตำหนิให้ได้
  • ผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ อาวุโส น่าจะชอบ นั่งสบาย การทรงตัวของรถนิ่งมากในทุกสภาวะ ไม่ทำให้เวียนหัวหรือเมารถ แม้ว่าผู้ขับจะขับในสไตล์สปอร์ตใช้ความเร็วสูง เปลี่ยนเลนแซงตลอดทาง
  • เบาะที่นั่ง นั่งสบาย โอบกระชับกับสรีระพอดี นั่งนานก็ไม่รู้สึกเมื่อยล้า ห้องโดยสารโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ไม่มีกลิ่นเหม็น วัสดุและการตกแต่งสวยงามลงตัว ช่องลมเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ เย็นทั่วถึงทุกที่นั่ง ติดตั้งลำโพง BOSE ให้เสียงเพลงที่ไพเราะดี
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ เป็นประโยชน์อย่างมาก เก็บสถิติการใช้เชื้อเพลิงอย่างละเอียด แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนว่ากำลังใช้พลังงานอย่างไร ชาร์จอย่างไร ขับอย่างไรจึงจะประหยัด
  • ปุ่มควบคุมมีมากมายในบริเวณคอนโซลกลาง แต่ก็ใช้งานง่าย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจนดี อยู่ใกล้มือ ไม่ต้องก้มลงหา
  • โหมดการขับขี่มีหลายแบบ มีความฉลาด ปรับใช้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
  • ชาร์จไฟที่บ้าน ใช้เวลาประมาณเกือบ 4 ชั่วโมงก็เต็ม สำหรับปล๊กไฟฟ้าแบบ 3 เฟส
  • หากขับภายในเมืองโดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ก็วิ่งได้หลายกิโลเมตร แต่ไม่กี่สิบนาทีก็หมด ต้องชาร์จกลับเข้าไปในขณะที่สลับไปใช้เครื่องยนต์
  • ช่วงล่างนุ่มนวลมาก เกาะถนนดีเยี่ยม ไม่รู้สึกถึงความสะเทือนจากผิวถนน
  • พวงมาลัยจับได้กระชับมือ วัสดุดี ไม่ลื่น ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมดี
  • เข้าออกห้องโดยสารได้สะดวก ไม่ต้องก้มหรือปีน สะดวกสบายสำหรับทุกวัย
  • ไฟท้ายแบบ LED ข้างละ 4 ขีด ไฟ Daytime ก็เป็นแบบข้างละ 4 จุด เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แปลกใหม่ สวยงาม
  • ขับง่าย ควบคุมง่าย จอดง่าย เหมือนรถคันเล็ก ไม่รู้สึกว่ากำลังขับรถคันโตที่มีน้ำหนักเยอะเลยจริง ๆ คล่องตัวมาก
  • ห้องโดยสารเงียบ ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม เสียงเครื่องยนต์และเสียงยางสัมผัสพื้นถนนก็แทบจะไม่ได้ยิน
  • อัตราทดของพวงมาลัยทำได้ดี เลี้ยวหรือขับซิกแซกได้ง่าย
  • สมรรถนะดุจรถสปอร์ต นุ่มนวลเหมือนรถเก๋งขนาดใหญ่ แต่ลุยได้แบบ SUV  ความหรูหราและเทคโนโลยีสุดล้ำแบบจัดเต็ม
  • สรุปว่าเป็นรถ SUV หรูหราที่มีความลงตัวสมบูรณ์มาก ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ น่าประทับใจกว่ารถยนต์รุ่นอื่นที่มีราคาสูงกว่าด้วยซ้ำไป หากให้ติ คงมีอย่างเดียวคือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในโหมด E-Power ที่อยากให้ใช้ได้นานกว่านี้ในโหมดใช้ไฟฟ้าอย่างเดียว  ระยะเวลาในการชาร์จถือว่าดีแล้ว ไม่ต้องชาร์จนานเสียบปลั๊กไว้ทั้งคืน  ราคา 7.99 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่ากว่า SUV คู่แข่งในตลาดทุกรุ่น เหนือชั้นกว่าในด้านการใช้เชื้อเพลิงและประสบการณ์ในการขับขี่

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

_______________________________________________________________

ถ่ายภาพบางส่วนและเรียบเรียงบทความโดย วรพล ลิ่มศิริวงศ์ (Worapol Limsiriwong)

IMG_20140729_205537ติดต่อ เชิญร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว / โปรโมต / รีวิว

โทร. 08-7909-7000  ●  e-mail : worapol@gmail.com
facebook.com/nextinth  ●  twitter.com/digitalnext

ใส่ความเห็น