Review : Samsung Galaxy Note II มีดีมากกว่าแค่มีปากกา

กลายเป็นกระแสความแรงเหนือคู่แข่งอย่าง iPhone ทันทีที่ โน้ส อุดม แต้พานิช เป็นพรีเซนเตอร์และออนแอร์ TVC ของ Samsung Galaxy Note II  ทุกคนมีคำถามว่า มันดีกว่าจริงเหรอ แค่มีปากกาให้เขียนได้ ดีกว่าอย่างไร ดีกว่าใช้นิ้วจริงหรือไม่ มาดูกัน!

มาดูกันก่อนว่า โน้ส อุดม บอกเอาไว้ในสื่อโฆษณาว่าอย่างไรบ้าง และทำความรู้จัก ดูรายละเอียด สเปค ลูกเล่นทั้งหมดกันก่อน ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของซัมซุง แล้วค่อยอ่านรีวิวต่อกัน
http://www.samsung.com/th/galaxynote/note2/noteudom.html

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในประเทศไทย มี Samsung Galaxy Note II จำหน่ายรวม 3 สี จากทั้งหมด 5 สี  คือ สีขาวที่เราได้รับเครื่องมาทดสอบ สีเทาที่สวยเงางาม และล่าสุดสีน้ำตาลที่ดูสวยกว่าสองสีแรก ส่วนสีแดงและชมพู ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ต้องหิ้วมาจากประเทศในราคาประมาณ 1.8-1.9 หมื่นบาท สำหรับราคากลางในประเทศไทยอยู่ที่ 22,900 บาท  ทั้งนี้เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ จะไม่สามารถใช้สิทธิพิเศษจากแอพพลิเคชั่น Galaxy Gift ได้  (สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องศูนย์ รับประกัน 1 ปี มีใบกำกับภาษี สามารถโทรสั่งซื้อนัดส่งมอบได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ท้ายบทความ มีราคาพิเศษสำหรับผู้อ่านทุกท่าน)

ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ใหญ่เกินไปจนใช้งานมือเดียวไม่ถนัด อาจลื่นหลุดมือหล่นได้ง่ายในช่วงแรกที่ยังไม่ชินมือ จอภาพขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วแบบ HD Super AMOLED ที่เรียงเม็ดสีเต็มพิกเซลแล้ว แต่ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล ไม่ถึงกับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล  มีปากกาที่มีระบบเตือนป้องกันหาย ให้เสียบคืนภายในเวลาที่กำหนด ช่องเสียบปากกาแน่นดี ไม่หลวมง่ายๆ

มาดูกันว่า โน้ส อุดม แต้พานิช ทดลองเล่นอะไรกับ Galaxy Note II บ้าง

มาดูในส่วนของ Software กันบ้าง

ความรู้สึกเมื่อได้ทดลองใช้งานเป็นเวลา 15 วัน

• ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่เกินไป จับไม่ค่อยถนัด พบเห็นหลายคนทำหลุดมือในสถานที่สาธารณะบ่อย
• ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ ถ่ายรูปตัวเองโดยใช้มือข้างเดียวได้ยากมาก ถ้าใช้สองมือแล้วถ่ายในระยะห่างก็จะเห็นแขนยาวๆในภาพถ่าย ให้นึกภาพแม่นาคพระโขนง ต้องถ่ายในระยะใกล้เฉพาะใบหน้า
• ไฟฉายสว่างค่อนข้างมาก มี Widget สำหรับเปิดไฟฉายได้ง่ายบน Home Screen
• Launcher และ Widget ของซัมซุง มีความสวยงามลงตัวและทำงานได้ดียอดเยี่ยมกว่าทุกยี่ห้อ
• เมนูการปรับแต่งทุกส่วนจะละเอียดซับซ้อนลึกกว่าทุกยี่ห้อ ลูกเล่นใส่มาเต็มที่เหนือกว่าทุกยี่ห้อ
• มีปุ่ม Home ที่เป็นปุ่มจริง สามารถปลุกเครื่องให้ตื่นจาก Standby ได้ง่าย โดยไม่ต้องคลำหาปุ่ม Power ที่ด้านข้าง  แต่อย่างไรก็ตาม ปุ่ม Power และ Volume ก็วางในตำแหน่งที่ดี กดง่าย กดเบาๆก็ติด ไม่ต้องออกแรงมาก จุดนี้เป็นข้อดีที่เหนือกว่า Android หลายยี่ห้อในตลาด
• คุณภาพของภาพถ่าย ยังไม่ดีเท่า iPhone 4S / 5 / Galaxy S III และ Sony รุ่นราคาหลักหมื่น แต่กล้องก็สามารถจับภาพได้เร็วมาก โฟกัสแม่นยำและเร็ว วัดแสงได้ดี ผิดพลาดน้อย
• หูฟังที่แถมมา มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ ต่างจาก Sony Xperia ทุกรุ่นที่มีราคาเกิน 10,000 บาท จะแถมหูฟัง in-ear คุณภาพสูงมาก เทียบเท่าหูฟังแบรนด์ชั้นนำที่พบได้ในสตูดิโอในช่วงราคา 1,500 – 4,000 บาทเลยทีเดียว  ถ้าชอบฟังเพลง ต้องซื้อหูฟังใหม่
• วัสดุเครื่องสีขาวดูไม่สมราคา 22,900 บาท ถลอกและเป็นรอยง่ายทุกชิ้นส่วน รวมทั้งอุปกรณ์เสริมด้วย แต่สีเทาและน้ำตาล ดูหรูหรา และมองเห็นรอยขีดข่วนได้ยากกว่า
• ปุ่มสัมผัสใต้จอภาพ ทำงานได้ไวและแม่นยำ มีไฟส่องสว่างใต้ปุ่มที่ชัดเจนเพียงพอ
• เสียงสนทนาดังชัดใส เสียงเรียกเข้าและระบบสั่น ทำงานได้ดี ไม่เบาเหมือนบางยี่ห้อ
• แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับการใช้งานได้เกิน 1 วันอย่างแน่นอน แต่ไม่เกิน 2 วัน ต้องชาร์จวันละครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จนานหลายชั่วโมงกว่าจะเต็ม
• เปิดปิดการเชื่อมต่อได้ง่ายจาก Notification Center
• ปรับแต่งเสียงด้วย DSP และ Equaliser ได้อิสระ
• หน้าจอใหญ่ แต่ดูหยาบเล็กน้อย ไม่คมชัดเนียนตาเหมือนรุ่นระดับบนของยี่ห้ออื่น รวมทั้งหยาบกว่า Galaxy S III เพราะจุดพิกเซลมีขนาดใหญ่มาก
• แบตเตอรี่อาจจะบวมได้ง่ายหลังการใช้งานไปแล้ว 8-15 เดือน เหมือนหลายรุ่นที่ผ่านมา
• ทำความสะอาดตัวเครื่องได้ง่าย เพราะผิวเรียบ ไม่ค่อยมีซอกให้ฝุ่นลงไปสะสม
• บันทึกวิทยุ FM เป็นไฟล์ MP4 เก็บไว้ได้ แต่คุณภาพไม่สูง
• ล้าง Application และล้าง Memory ที่ค้างอยู่ได้ง่ายมาก
• เปลี่ยนฟอนต์และขนาดได้หลากหลาย
• ราคาสูงมาก ในขณะที่ Sony, HTC, i-mobile, Oppo ถูกกว่า และได้จอภาพ Full HD แล้ว
• รายชื่อสมุดโทรศัพท์และปุ่มโทรออก สวยงาม อ่านง่าย ใช้งานง่าย
• ปลดล็อคหน้าจอได้ง่าย ตั้งค่าปุ่มลัดได้
• มีจำหน่าย Flip Cover เป็นอุปกรณ์เสริม สำหรับคนที่เบื่อสีสันเดิมๆ หรือซื้อฝาหลังมาเปลี่ยนสีได้
• คุณภาพของตัวเครื่องไม่มีอะไรโดดเด่นหรือน่าไว้ใจนัก แต่เรื่องซอฟต์แวร์ ซัมซุงทำได้ที่สุดแล้ว
• ใส่ลูกเล่นเยอะมากที่สุดในตลาด รู้ใจผู้ใช้งาน พัฒนาซอฟต์แวร์ได้ถูกใจมาก แต่อาจไม่ค่อยมีประโยชน์ในการใช้งานกับชีวิตประจำวัน ซึ่งมีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ก็น่าจะดีกว่าไม่มีเลย
• ระบบการถ่ายภาพ Panorama ยังทำได้ไม่ดีเท่า Sony Xperia  ซอฟต์แวร์ยังไม่ฉลาดพอ
• ปรับความเข้มสีหน้าจอได้ตามความพึงพอใจของแต่ละคน ถึง 4 ระดับ บางคนชอบสีจัดจ้าน บางคนชอบนุ่มนวลสบายตาแบบธรรมชาติ บางคนชอบสีสันสดใสแบบพอดีๆ
• อาจจะมีสีแดงหรือชมพู เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพียงสีใดสีหนึ่งในช่วงกลางปี ก่อนตกรุ่นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556
• Samsung สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นมาหลายตัวสำหรับสนุนการใช้งานปากกา ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์ดี  เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องจดบันทึกด่วนบ่อยๆ
• ปากกาใช้งานที่ขอบจอไม่ค่อยได้ มันจะทำงานผิดพลาด
• ระดับราคานี้ น่าจะใช้ฝาหลังหรือขอบตัวเครื่องที่เป็นวัสดุอื่น ที่ทนทานและดูมีราคามากกว่านี้
• NFC ติดอยู่กับฝาหลัง ใช้งานร่วมกับ AIS Rabbit SIM แทน Rabbit card ได้ในอนาคต
• เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่อยากพกแบตเตอรี่สำรองทุกวัน และเบื่อ iPhone

________________________________________________________________

ถ่ายภาพและเรียบเรียงบทความวิจารณ์โดย วรพล ลิ่มศิริวงศ์ (Worapol Limsiriwong)

ติดต่อทำข่าว PR งานแถลงข่าวเปิดตัว / รีวิวผลิตภัณฑ์
โทร. 08-7909-7000   ●  Google+ : worapol@gmail.com
facebook.com/nextinth  ●  twitter.com/digitalnext

ท่านสามารถนำบทความนี้ไปเผยแพร่ได้ในสื่อทุกประเภท
แต่ต้องทำลิงค์อ้างอิงมายังบทความหน้านี้ เพื่อให้เครดิต
และควรขออนุญาตก่อนนำภาพถ่ายในบทความไปใช้